2015년 7월 6일 월요일

❀3 เคล็ดลับอัศจรรย์ ชะลอวัยให้คุณเป็นสาวใสตลอดกาล❀


3 เคล็ดลับอัศจรรย์
ชะลอวัยให้คุณเป็นสาวใสตลอดกาล
สาวๆ คนไหนไม่อยากแก่ไว ให้ฟังทางนี้ กับเคล็ดลับของการชะลอวัย ลดริ้วรอยและทำให้ผิวพรรณดูเปล่งปลั่งอยู่เสมอ เรามาดูกันเลยค่ะว่าสูตรเด็ดเคล็ดลับที่ว่านี้จะมีอะไรกันบ้าง

ใส่ใจการกินอาหาร
 
อาหารเป็นปัจจัยสำคัญในการดูแลร่างกายอย่างมากค่ะ เพราะร่างกายจะสามารถขับเคลื่อนไปได้ในแต่ละวันจะต้องได้รับสารอาหารที่มีประโยชน์จากอาหาร เมื่อเรากินสิ่งใดเข้าไป ร่างกายก็จะนำสิ่งนั้นไปใช้ หากกินอาหารที่ให้โทษก็จะมีสารพิษเข้าไปสะสมเป็นตัวการทำให้ร่างกายเกิดความผิดปกติและทำงานหนัก อาหารจึงเปรียบเสมือนปราการด่านแรกของการดูแลตัวเอง จากพฤติกรรมเดิมๆ ที่ชอบกินอาหารตามข้างทาง อาหารตามสั่ง อาหารแช่แข็ง หรือแม้กระทั่งอาหารแปรรูปฟาสฟู้ดทั้งหลายเหล่านี้ ก็จะต้องหันมาใส่ใจเลือกกินให้มากขึ้น

เริ่มต้นง่ายๆ จากกินตามหลักโภชนาการอาหารให้ครบ 5 หมู่ เน้นผักและผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุ ซึ่งมีส่วนสำคัญในการบำรุงผิวพรรณให้คงสภาพความอ่อนเยาวน์เอาไว้ได้ ทั้งนี้ในด้านคาร์โบไฮเดรตควรเลือกกินประเภทคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน ประกอบด้วยข้าวไม่ขัดสีและธัญพืช จะมีปริมาณไฟเบอร์สูง ช่วยอุ้มน้ำในร่างกาย ให้ผิวพรรณมีความชุ่มชื้นไม่แห้งกร้าน อีกทั้งยังช่วยกระตุ้นระบบขับถ่าย ช่วยขับสารพิษในร่างกายได้อย่างหมดจรด

ส่วนการเลือกกินโปรตีน ควรเน้นเป็นลีนโปรตีน ที่มีปริมาณไขมันต่ำ เช่น เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน เนื้อปลา นมไขมันต่ำ ถั่วเหลืองและเต้าหู้ เป็นต้น สารชนิดนี้มีส่วนสำคัญในการเสริมสร้างกล้ามเนื้อ ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ลดริ้วรอยความเหี่ยวย่น เสริมสร้างกล้ามเนื้อและกระตุ้นระบบเผาผลาญ

น้ำดื่มน้ำสะอาดเป็นอีกหนึ่งส่วนสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม ในแต่ละวันเราควรได้รับน้ำอย่างน้อยประมาณ  7-8 แก้ว เพื่อให้ร่างกายทำงานได้อย่างคล่องแคล่ว ซึ่งน้ำยังเป็นส่วนประกอบหนึ่งของเซลล์ หากร่างกายได้รับน้ำอย่างเพียงพอ ก็จะช่วยให้ผิวพรรณดูสดใสเปล่งปลั่ง มีน้ำมีนวลราวกับเด็กสาวเลยทีเดียวค่ะ

นอกจากนี้ ควรหลีกเลี่ยงการกินอาหารรสจัด เค็มจัด หวานจัด และมันจัด เน้นการกินอาหารผ่านการปรุงให้น้อยที่สุดหรือที่เรียกกันว่าอาหารคลีน เพื่อให้ร่างกายได้ดูดซึมสารอาหารที่มีประโยชน์นำไปใช้เสริมสร้างร่างกายให้แข็งแรงสมบูรณ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

อย่ามองข้ามการออกกำลังกาย
 
เมื่อดูแลปัจจัยเรื่องการกินอาหารกันไปแล้ว การออกกำลังกายเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่จะช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อและชะลอความเสื่อมสภาพของร่างกาย เมื่อร่างกายได้รับอาหารก็จะแปรสภาพไปเป็นพลังงานเพื่อใช้ในการเคลื่อนไหวร่างกาย ซึ่งผู้คนส่วนมากที่ขาดการออกกำลังกายจะทำให้สารอาหารไม่ถูกเผาผลาญ ส่งผลให้เกิดการเก็บเป็นส่วนเกินในรูปไขมัน ส่งผลให้เกิดภาวะอ้วน โรคเบาหวาน หัวใจและโรคอื่นๆตามมาอีกมาก แถมยังทำให้รู้สึกเหนื่อยหล้า เบื่อ ไม่มีชีวิตชีวา ง่วงเหงาหาวนอนและรู้สึกขี้เกียจ 

การออกกำลังกายจึงเป็นสิ่งที่จะช่วยเสริมภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกาย ลดการเกิดโรคและช่วยดูแลผิวพรรณให้มีความเปล่งปลั่ง ผู้เริ่มต้นออกกำลังกายอาจจะเริ่มที่การเต้นแอโรบิคแบบง่ายๆ เพื่อให้กล้ามเนื้อเกิดความคุ้นชิน โดยใช้เวลาออกกำลังกายอย่างต่อเนื่องประมาณ 30 นาทีขึ้นไปถึง 1 ชั่วโมง ต่อครั้ง โดยทำ 3 -5 ครั้งต่ออาทิตย์

ประโยชน์จากการออกกำลังกายจะช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อ โดยเฉพาะกล้ามเนื้อชุดใหญ่ที่ได้รับการกระตุ้นจากการเคลื่อนไหวร่างกาย เมื่อกล้ามเนื้อเหล่านี้ได้ทำงาน ก็จะส่งผลให้ระบบเผาผลาญทำงานตามมา สารอาหารที่รับเข้าไปจึงถูกนำไปใช้ ลดการเกิดภาวะไขมันอุดตัน ทำให้หัวใจมีความแข็งแรง ระบบไหลเวียนเลือดได้รับการกระตุ้น ออกซิเจนจะไปหล่อเลี้ยงส่วนต่างๆ ของร่างกาย เสริมสร้างให้อวัยวะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังช่วยขับสารพิษออกทางรูขุมขน ทำให้ผิวพรรณมีน้ำมีนวล ลดการเกิดสิวและช่วยให้ใบหน้าคงความอ่อนเยาว์เอาไว้ได้นานขึ้น

อย่างไรก็ตาม การออกกำลังกายมีหลายทางเลือกให้เราเลือกใช้ตามความเหมาะสม ไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นการเต้นแอโรบิกเพียงอย่างเดียว และอย่าลืมข้อจำกัดในสภาพร่างกายของตัวเองด้วย เพื่อความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่ดีตามมาค่ะ
 
สร้างอารมณ์ด้านบวก

ผู้ที่มีปัญหาทางด้านอารมณ์และมีความเครียดสะสมเป็นระยะเวลานานจะส่งผลให้กล้ามเนื้อเกิดภาวะหดเกร็ง หัวใจเต้นแรงต่อเนื่อง ส่งผลให้เส้นเลือดที่เข้ามาเลี้ยงหัวใจตีบ ทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ หัวใจขาดออกซิเจน และเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจตามมา เมื่อหัวใจทำงานได้ไม่เต็มที่ การสูบฉีดเลือดต่ำ ออกซิเจนก็ไม่ถูกส่งไปหล่อเลี้ยงอวัยวะต่างๆ ได้เพียงพอ ส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูง เลือดมีความข้นเหนียวและแข็งตัว เสี่ยงต่อการทำงานหนักของหัวใจจนเกิดภาวะหัวใจโต

อีกทั้งความเครียดและความคิดในเชิงลบยังเป็นต้นเหตุทำให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกันต่ำลง ทำให้ร่างกายอ่อนแอ จิตใจหดหู่ เศร้าหมอง ไม่ค่อยมีชีวิตชีวา หากเป็นบ่อยๆ ก็จะทำให้ความย่ำแย่เหล่านี้ปรากฏออกมาภายนอก โดยเฉพาะผิวพรรณจะมีความหมองคล้ำ แห้งกร้าน ส่งผลให้เป็นคนที่ดูไม่มีความสุข และดูเป็นคนขี้โรค ใบหน้าของคนที่มีภาวะเครียดบ่อยๆ จะเต็มไปด้วยการเกร็งตัวของกล้ามเนื้ออย่างไม่รู้ตัว ส่งผลให้เกิดริ้วรอยก่อนวัย จึงสังเกตได้ว่าคนที่มีอารมณ์ฉุนเฉียว ชอบมองโลกในแง่ร้าย อารมณ์ร้อน มักจะมีใบหน้าที่แก่ไปก่อนวัยที่ควรจะเป็น

ดังนั้น หากพบว่าตัวเองมีความเครียดอยู่บ่อยๆ จะต้องปรับเปลี่ยนทัศนคติตนเองเสียใหม่ เริ่มจากการปรับมุมมองให้เป็นคนมีความคิดด้านบวกมากขึ้น พยายามยิ้มแม้ว่าจะอยู่ในช่วงที่กดดัน พยายามสร้างอารมณ์แห่งความสุขให้เกิดขึ้นในทุกเวลา หลีกเลี่ยงความวิตกกังวลต่างๆและรู้จักการปล่อยวาง

การนั่งสมาธิเป็นหนึ่งในวิธีกำจัดความเครียดที่มีประสิทธิภาพ การฝึกลมหายใจเข้าออกจะช่วยทำให้สภาพจิตใจถูกยกระดับ เป็นคนใจเย็นและมีความสงบมากขึ้น ยามที่มีปัญหาสติจะช่วยประคับประคองจิตใจไม่ให้ตกต่ำ อีกทั้งยังช่วยเพิ่มความสุข ทำให้เป็นคนที่มีชีวิตชีวา ที่ดีต่อสุขภาพภายนอกและภายใน ช่วยให้สาวๆ กลายเป็นคนที่มีผิวพรรณสวยงามเปล่งปลั่ง และมีใบหน้ายิ้มแย้มเป็นที่รักของผู้คนรอบข้างมากขึ้น

เพียงทั้ง 3 ข้อที่กล่าวไปนี้ก็จะช่วยให้เพื่อนๆ กลายเป็นคนใหม่ขึ้นมาได้ แถมยังช่วยชะลอความเสื่อมสภาพของร่างกาย ให้มีสุขภาพแข็งแรงพร้อมความเปล่งปลั่งที่ทอประกายออกมา จนยากจะเดาอายุที่แท้จริงได้เลยทีเดียวค่ะ

ขอบคุณเนื้อหา http://www.sahaherbal.org/article/3

รูปภาพ www.google.com
 
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม จองคิวการรักษา หรือสอบถามค่าใช้จ่ายกรุณาติดต่อตามที่อยู่ด้านล่าง
 

 

댓글 없음:

댓글 쓰기